วันศุกร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2558


บันทึกการเรียนการสอนครั้งที่ 16


บันทึกอนุทิน
วิชา การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ตฤณ แจ่มถิน
วัน/เดือน/ปี  21 เมษายน  2558 ครั้งที่  16

ความรู้ที่ได้รับ
            วันนี้เริ่มเรียนด้วยการเล่นกิจกรรมคลายเครียดก่อนเรียนโดยกิจกรรม ดิ่งพสุธาเป็นกิจกรรมที่สนุกและทำให้นักศึกษาไม่เครียดในการเรียน

>>>โปรมแกรมการศึกษาเฉพาะบุคคล<<<
(Individualized Education Program)
แผน IEP>> เป็นแผนการสอนที่ร่างขึ้น เพื่อให้เด็กพิเศษแต่ละคนได้รับการสอน และการช่วยเหลือฟื้นฟูให้เหมาะสมกับความต้องการและความสามารถของเขา
ด้วยการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของเด็กโดยระบุเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดการใช้แผนและวิธีการวัดประเมินผลเด็ก
การเขียนแผนเด็กIEP
-          คัดแยกเด็กพิเศษ
-          ครูต้องรู้ว่าเด็กมีปัญหาอะไร
-          ประเมินพัฒนาการเด็กเป็นระยะ จะทำให้ทราบว่าจะได้เริ่มต้นช่วยเหลือเด็กจากจุดไหน ทักษะอะไรเด็กสาสารถทำอะไรได้ทำอะไรไม่ได้
-          แล้วจึงเขียน IEP
IEP ประกอบด้วย >>
-          ข้อมูลส่วนตัวเด็ก
-          ระบุว่าเด็กมีความจำเป็นต้องได้รับบริการพิเศษอะไรบ้าง
-          การระบุความสามารถของเด็กในขณะปัจจุบัน
-          เป้าหมายระยะยาวประจำปี  ระยะสัน
-          ระบุวัน เดือน ปี ที่เริ่มทำการสอนและคาดคะเนวันสิ้นสุดของแผน
-          วิธีการประเมินผล
ประโยชน์ต่อเด็ก
-          ได้เรียนรู้ตามความสามารถของตน
-          ได้มีโอกาสพัฒนาศักยภาพของตน
-          ได้รับการศึกษาและฟื้นฟูอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม
-          ถ้าเด็กเข้าเรียนในโรงเรียนจะไม่ถูกจัดเข้าชั้นเรียนเฉยๆ
ประโยชน์ต่อครู
-          เป็นแนวทางการจัดการจัดสอนที่ตรงกับความสามารถและความต้องการของเด็ก
-          เป็นแนวทางในการเลือกสื่อการสอนและวิธีการสอนให้เหมาะสมกับเด็ก
-          ปรับเปลี่ยนได้เมื่อความต้องการเปลี่ยนแปลงไป
-          เป็นแนวทางในการประเมินผลการเรียนและการเขียนรายงานพัฒนาการความก้าวหน้าของเด็ก
-          ตรวจสอบและประเมินผลไดเป็นระยะ
ประโยชน์ต่อผู้ปกครอง
-        ได้มีส่วนร่วมในการจัดทำแผนการเรียนรายบุคคลเพื่อให้เด็กได้พัฒนาความสามารถได้สูงสุดตามศักยภาพ
-         ทราบร่วมกับครูว่าจะฝึกลูกของตนเองอย่างไร
-          เกิดความร่วมมือในการพัฒนาเด็ก มีการติดต่อสื่อสารกันอย่างต่อเนื่องและใกล้ชิดระหว่างบ้านกับโรงเรียน
ขั้นตอนการจัดทำแผนการศึกษารายบุคคล
1.การรวบรวมข้อมูล
- รายงานทางการแพทย์
- รางานการประเมินด้านต่างๆ
- บันทึกจากผู้ปกครอง ครู และผู้ที่เกี่ยวข้อง
2.การจัดทำแผน
- ประชุมผู้ที่เกี่ยวข้อง
- กำหนดจุดมุ่งหมายระยะสั้นระยะยาว
- กำหนดโปรแกรมและกิจกรรม
- จะต้องได้รับการรับรองแผนการศึกษาเฉพาะบุคคลจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
การกำหนดจุดมุ่งหมาย     
-          ระยะยาว
-          ระยะสั้น
>>จุดมุ่งหมายระยะยาว<<
กำหนดให้ชัดเจน แม้จะกว้าง
-          น้องนุ่นช่วยเหลือตนเองได้
-          น้องดาวร่วมมือกับผู้อื่นได้ดีขึ้น
-          น้องริวเข้ากับเพื่อนคนอื่นๆได้
>>จุดมุ่งหมายระยะสั้น<<
-          ตั้งให้อยู่ภายใต้จุดมุ่งหมายหลัก (ระยะยาว)
-          เป็นพฤติกรรมที่เด็กสามารถทำได้ในระยะ 2-3 วัน หรือ 2-3 สัปดาห์
1.      จะสอนใคร
2.      พฤติกรรมอะไร
3.      เมื่อไหร่ ที่ไหน (ที่พฤติกรรมนั้นจะเกิด)
4.      พฤติกรรมนั้นต้องดีขนาดไหน
ใคร                        อรุณ
อะไร                      กระโดดขาเดียวได้
เมื่อไหร่                  กิจกรรมกลางแจ้ง
ดีขนาดไหน           กระโดดไดขาละ 5 ครั้ง ในเวลา 30 นาที
3.การใช้แผน
- เมื่อแผนเสร็จสมบูรณ์ ครูจะนำไปใช้โดยจะใช้แผนระยะสั้น
- นำมาเป็นจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
- แยกย่อยขั้นตอนการสอนให้เหมาะกับเด็ก
- จัดเตรียมสื่อและกิจกรรมการเรียนการสอน
- ต้องมีการสังเกตเก็บรวมรวมข้อมูลเกี่ยวกับเด็กและความสามรถ โดยคำนึงถึง
- ขั้นตอนพัฒนาการของเด็กปกติ
- ตัวชี้วัดพื้นฐานที่เกี่ยวกับปัญหาของพัฒนาการเด็ก
- อิทธิพลของสิ่งแวดล้อมของเด็กและผู้ใหญ่ที่มีผลต่อการแสดงออกของเด็ก
4. การประเมินผล
- โดยทั่วไปจะประเมินภาคเรียนละครั้ง หรือย่อยกว่านั้น
- ควรมีการกำหนดวิธีการประเมิน และเกณฑ์วัดผล
***การประเมินในแต่ละทักษะหรือแต่ละกิจกรรม อาจใช้วิธีวัดและกำหนดเกณฑ์แตกต่างกัน***

การนำไปใช้ในการเรียนการสอน
นำไปใช้ในการจัดทำแผนการสอนสำหรับเด็กพิเศษในอนาคตให้เหมาะสมกับความบกพร่องของเด็กแต่ละประเภทและรู้ถึงหลักการต่างๆในการเขียนแผนที่ถูกต้องสามารถนำมาประยุกต์ในการหากิจกรรมการสอนได้อีกด้วยโดยทีครูจะต้องรู้ข้อมูลของเด็กเป็นอย่างดีก่อนที่จะทำแผนIEP ได้

ประเมินการเรียนการสอน
ตนเอง>> ตั้งใจเรียน แต่งกายสุภาพ เข้าในในข้อมูลที่อาจารย์สอนเป็นอย่างดีมีการจดเนื้อหาเพิ่มเติมจากที่อาจารย์สอน
เพื่อน>>แต่งกายสุภาพ  ไม่คุยกันเสียงดงในขณะที่ครูสอนหรือให้ทำกิจกรรม ตั้งใจเขียนแผนกันเป็นอย่างดี
อาจารย์>> มีกิจกรรมใหม่ๆมาให้นักเรียนได้เล่นอยู่ตลอดเพื่อให้เด็กไม่เครียดในการเรียนเกินไปเวลาอธิบายในเนื้อหาของการเรียนก็อธิบายได้ดีมากคะ





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น